นครเป่ยจิง หรือ ปักกิ่ง (北京市)


เมืองหลวงเป่ยจิง (ปักกิ่ง) เป็นศูนย์กลางการปกครอง วัฒนธรรม และความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ แบ่งเขตการปกครองออกเป็น 12 เขต และ 6 อำเภอ บริเวณตอนเหนือของที่ราบภาคเหนือของจีน พื้นที่โดยรอบติดกับมณฑลเหอเป่ย ยกเว้นทิศตะวันออกติดกับเทียนจิน (เทียนสิน)

ภูมิประเทศ

พื้นที่ 16,807.8 ตร.กม. เป็นพื้นที่ภูเขาถึง 10,417.5 ตร.กม. เป็น 62% ของพื้นที่ทั้งหมด และเป็นที่ราบ 6,390.3 ตร.กม. ผืนดินบริเวณตะวันตกเฉียงเหนือยกตัวขึ้นสูงส่วนด้านตะวันออกเฉียงใต้ลาดลงต่ำ ทิศตะวันตก ทิศเหนือและตะวันออกเฉียงเหนือรายล้อมด้วยภูเขา แม่น้ำสายสำคัญเช่น หย่งติ้ง เฉาไป๋ เป่ยยุ่น จู้หม่า ส่วนใหญ่ไหลจากต้นน้ำทางทิศตะวันตกเฉียงเหนือ และลัดเลาะผ่านหุบเขาเข้าสู่ที่ราบทางตะวันออกเฉียงใต้ของเมือง แล้วจึงแยกย้ายไหลลงสู่ทะเลป๋อไฮ่

ภูมิอากาศ

ลักษณะอากาศเป็นแบบอบอุ่นกึ่งชุ่มชื้น อยู่ในเขตอิทธิพลของลมมรสุมเขตอบอุ่น แบ่งเป็น 4 ฤดู ช่วงฤดูใบไม้ผลิและใบไม้ร่วงระยะเวลาสั้นมาก มีฤดูร้อนและหนาวที่ยาวนาน อุณหภูมิเฉลี่ยตลอดปี 13 องศาเซลเซียส อากาศหนาวเย็นที่สุดในเดือนมกราคม อุณหภูมิเฉลี่ยต่ำสุด -3.7 องศา เดือนกรกฎาคมอากาศร้อนจัด อุณหภูมิเฉลี่ยสูงสุด 25.2 องศา

วัฒนธรรม

ศูนย์กลางวัฒนธรรมร่วมสมัยเช่นนครหลวงปักกิ่ง เป็นแหล่งไหลเวียนทางวัฒนธรรมที่เต็มไปด้วยชีวิตชีวา มีห้องสมุดขนาดใหญ่จำนวนถึง 24 แห่ง หนึ่งในนั้นใหญ่ที่สุดในเอเซีย รวมถึงพิพิธภัณฑ์เฉพาะศาสตร์ด้านต่างๆอีกกว่าร้อยแห่ง มีสถานีวิทยุโทรทัศน์ที่ออกอากาศหลายภาษาตลอด 24 ชั่วโมง มีหน่วยงานผลิตผลงานด้านศิลปวัฒนธรรมกว่า 4000 กลุ่ม คณะละครหรือกลุ่มศิลปินเกือบ 40 คณะเปิดแสดง 8000 กว่ารอบต่อปี

การศึกษา

เมืองหลวงแห่งนี้ได้ชื่อว่าเป็นเขตที่มีสถาบันการศึกษาที่ทันสมัยที่สุด ปี 2000 มหาวิทยาลัยที่มีชื่อระดับประเทศอย่าง มหาวิทยาลัยปักกิ่ง ชิงหัว มหาวิทยาลัยประชาชนจีน มหาวิทยาครุศาสตร์ปักกิ่ง เป็นต้น

การเดินทาง และท่องเที่ยว

สนามบินนานาชาติปักกิ่ง อยู่ห่างจากใจกลางเมือง 26 กิโลเมตร วิธีที่ดีที่สุดในการเข้าเมืองคือการนั่งรถบัสจากสนามบินซึ่งราคาค่อนข้างถูก อีกทางเลือกหนึ่งคือ รถแท็กซี่ หากต่อรองไม่ดีอาจจะได้ราคาแพง ปักกิ่งยังเป็นศูนย์กลางของการเดินทางโดยรถไฟทั่วประเทศ สามารถใช้บริการได้ที่สถานีรถไฟปักกิ่งและสถานีรถไฟตะวันตก ส่วนรถประจำทางในเมืองปักกิ่งก็เป็นอีกทางเลือกหนึ่งที่ประหยัด และยังได้สัมผัสกับวิถีชาวเมืองอย่างแท้จริง

ส่วนทางเลือกที่ดีที่สุดสำหรับการคมนาคมในเมืองปักกิ่งคือ รถไฟใต้ดิน รวดเร็วและราคาถูก วิ่งผ่านจุดสำคัญๆ ของเมืองเกือบทุกจุด รถประจำทางก็วิ่งทั่วเมืองเช่นกันแต่หากไม่สามารถพูดภาษาจีนได้ก็อาจจะมีปัญหาเรื่องการสื่อสาร แท็กซี่ก็ไม่แพงนักและสะดวกสบายโดยเฉพาะในยามค่ำคืน แต่ไม่ควรใช้ในช่วงเร่งด่วนของวัน

ด้านการท่องเที่ยว เมืองปักกิ่งมีสถานที่ท่องเที่ยวที่น่าสนใจมากมาย สำหรับผู้ที่สนใจเดินทางไปท่องเที่ยวและดูสถานที่ในการศึกษาต่อ สามารถคลิกที่นี่เพื่อจองโรงแรม ที่พัก ในปักกิ่ง >>

ข้อมูลการเดินทางและท่องเที่ยวอ้างอิงจาก http://www.agoda.co.th

การคมนาคมในปักกิ่ง

1. ศูนย์ข้อมูลการจราจรปักกิ่ง >>

2. การเดินทางโดยรถโดยสารประจำทาง >>

การเดินทางในปักกิ่งสามารถแบ่งได้เป็น

1. รถไฟฟ้า รถไฟฟ้าในปักกิ่งเริ่มตั้งแต่ ค.ศ. 1969 จนในปัจจุบันมี 9 เส้น โดยผ่านสถานที่สำคัญต่างๆ ได้แก่ พระราชวังต้องห้าม สวนสัตว์ ตลาดรัสเซีย สนามกีฬาโอลิมปิก ค่าโดยสารราคา 2 หยวน ยกเว้นสายไปสนามบินนานาชาติปักกิ่งค่าราคา 25 หยวนต่อเที่ยว

2. รถประจำทาง มีหลายสายครอบคลุมทุกเส้นทาง ค่าโดยสารจะเริ่มต้นที่ 1 หยวนขึ้นกับระยะทาง ถ้ามีบัตรโดยสารจะเสียค่าโดยสารเริ่มต้นที่ 0.4 หยวน

3. รถแท็กซี่ เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการความรวดเร็วในการเดินทาง เริ่มต้นค่าโดยสาร 10 หยวน และเพิ่มกิโลเมตรละ 2 หยวน

รหัสโทรศัพท์ : 86-10

เบอร์โทรศัพท์สถานทูตไทยประจำปักกิ่ง Tel : (86-10) 6532-1749 , 6532-1848 , 6532-2151 , 6532-5048

เมืองที่สำคัญเมืองหนึ่งของโลก มีความเจริญเติบโตในทุกๆ ทาง และจุดเปลี่ยนที่สำคัญ คือ เป็นเจ้าภาพในกีฬาโอลิมปิก 2008


นครเป่ยจิงมีแผนผังเป็นรูปตารางสี่เหลี่ยมตัดกันตามหลักเฟินสุ่ย ครั้งหนึ่งที่นี่เคยเป็นศูนย์กลางของโลก แม้ในปัจจุบัน พระราชวังหลวงก็ยังคงตั้งตระหง่ายอยู่ ณ ที่เดิมไม่เปลี่ยนแปลง ช่วง 1,000 ปี ที่ผ่านมา เป่ยจิงเคยเป็นที่ประทับของจักรพรรดินานถึงสามราชวงศ์ โดยในศตวรรษที่ 13 ได้ตกอยู่ใต้อำนาจของกุลไลข่าน จึงมีชื่อเรียกว่าข่านบาลิค แปลว่าเมืองของข่าน และเป็นพระราชวังฤดูหนาวอันโอฬารของจักรพรรดิราชวงษ์หยวน ครั้นถึงสมัยราชวงศ์หมิงก็ได้ปรับปรุงผังเมืองขึ้นใหม่ จนมีสภาพดังเช่นในปัจจุบัน จักรพรรดิแห่งราชวงศ์ชิงก็ประทับอยู่ที่นี่จวบจนราชวงศ์ล่มสลายลง ในปี ค.ศ. 1912


ว่านหลี่ฉางเฉิน

กำแพงเมืองจีน... เปรียบเสมือนมังกรตัวมหึมา ที่ทอดกายจากทะเลหวงไห่ลัดเลี้ยวผ่านห้ามณฑล สองเขตปกครองตนเอง ไปสิ้นสุดลงที่กลางทะเลทรายโกบี ระหว่างทางจะมีการสร้างป้อมขึ้นตามจุดยุทธศาสตร์สำคัญๆ หลายแห่ง การสร้างกำแพงนี้ ในครั้งแรกปรากฎอยู่ในช่วง 500 ปีก่อนคริสตกาล แต่แนวทิศทางของกำแพงนี้ถูกกำหนดในช่วง 220 ปีก่อนคริสตกาล โดยจิ๋นซีฮ่องเต้ ผู้ก่อตั้งและปฐมจักรพรรดิของอาณาจักรจีน พระองค์ทรงบัญชาการสร้างกำแพงนี้ต่อจากกำแพงเดิม เพื่อเป็นเครื่องกีดขวางการรุกรานของชนเร่ร่อนที่ขี่ม้า ทหาร และชาวนาทั่วอาณาจักรจีนถูกเกณฑ์มาเพื่อก่อสร้าง “กำแพงหมื่นลี้” นี้เป็นเวลาหลายปี ( หนึ่งลี้มีความยาวเท่ากับ 547 หลาหรือ 500 เมตร ) ซึ่งเป็นสิ่งมหัศจรรย์ 1 ใน 7 ของโลก สร้างด้วยแรงงานคนนับหมื่นนับแสนคน มีความยาว 6,350 กม. ตัวกำแพงสูงราว 7 เมตร และกว้าง 6 เมตร ว่ากันว่าหากใช้วัสดุก่อสร้างที่สร้างกำแพงแห่งนี้มาสร้างกำแพงที่มีความหนา 1 เมตร สูง 5 เมตร จะได้กำแพงที่มีความยาวรอบโลก 1 รอบ


หอเทียนถาน

ในสมัยโบราณ จักรพรรดิจะเสด็จออกจากพระราชวังหลวงปีละ 2 ครั้ง พร้อมขบวนขันที ข้าราชสำนัก และขุนนางอีกกว่า 1,000 คน ตรงไปยังหอบวงสรวงสวรรค์เทียนถาน ซึ่งตั้งอยู่ทางตอนใต้ของพระราชวัง ห่างออกไป 3 กิโลเมตร หอบวงสรวงเทียนถาน แห่งนี้ใช้เวลาในการสร้างถึง 14 ปี สร้างขึ้นในช่วงเวลาเดียวกับพระบรมมหาราชวัง ในสมัยโบราณใช้เป็นที่สำหรับฮ่องเต้ในการประกอบพระราชพิธี บวงสรวงเทพยดาฟ้าดินของจักรพรรดิจีน ในสมัยโบราณ ว่ากันว่า ณ ที่แท่นบวงสรวงนั้น สามารถส่งเสียงให้ดังไปได้จนถึงสรวงสวรรค์ พร้อมสถาปัตยกรรมการก่อสร้างที่งดงาม


สุสาน 13 กษัตริย์

สุสาน 13 กษัตริย์หรือวังใต้ดินซึ่งใช้เป็นที่เก็บพระศพของจักรพรรดิจีน และพระมเหสี รวม 13 รัชกาล ซึ่งครอบคลุมพื้นที่ถึง 40 ตารางกิโลเมตร นำชมสุสานใต้ดิน "ติ้งหลิง" ที่เก็บพระศพ และสมบัติล้ำค่าของจักรพรรดิว่านลี่และมเหสีอีก 2 พระองค์ ที่สร้างมาแล้วกว่า 300 ปี ประมาณการก่อสร้างถึง 8 ล้านเหรียญเงิน ใช้คนงานถึง 30,000 คน ระยะเวลาการก่อสร้างถึง 6 ปีเต็ม บริเวณรอบสุสานเป็นที่ตั้งของใช้ในราชสำนักที่ขุดพบภายในสุสาน


พระราชวังโบราณ

พระราชวังโบราณ หรือ กู้กง นครต้องห้ามที่ยิ่งใหญ่แห่งหนึ่งของโลก ที่มีพื้นที่ถึง 720,000 ตร.ม. วัดโดยรอบกำแพงได้เป็นระยะทางถึง 6 ก.ม. สร้างขึ้นเมื่อราว 600 ปีก่อน มีอาคารและสิ่งปลูกสร้างรวม 800 หลัง ที่นี่เคยใช้เป็นที่ประทับของจักรพรรดิจีนในสมัยราชวงศ์หมิง และแมนจู รวม 24 รัชกาล หมู่อาคารเครื่องไม้ที่ประกอบด้วยห้องหับต่างๆ ซึ่งเมื่อแบ่งเป็นห้องแล้วมีมากถึง 8,706 ห้อง ท้องพระโรงที่โอ่อ่า พระตำหนักว่าราชการและพระตำหนักชั้นใน พิพิธภัณฑ์นาฬิกาโบราณ และที่เก็บเพชรนิลจินดาซึ่งประมาณค่ามิได้ พร้อมเครื่องใช้ในราชสำนักที่หาชมได้ยาก


พระราชวังฤดูร้อน

พระราชวังฤดูร้อน "อี้เหอหยวน" อุทยานที่ใหญ่ที่สุดของประเทศจีน ซึ่งงดงามด้วยสถาปัตยกรรมในรูปแบบต่างๆ ได้รับการออกแบบโดยจักรพรรดินีซูสีไทเฮาผู้มีชื่อเสียงโด่งดัง สถานที่ตระการตา ( แต่มีราคาค่าก่อสร้างที่สูงมาก ) เสร็จในปี ค.ศ. 1888 นำชมความงามอันวิจิตร และใหญ่โตโอฬารของพระราชวังที่ประกอบไปด้วยทะเลสาปจำลอง ( เก๋งจีน ) ระเบียงยาว เจดีย์ที่สวดมนต์ สะพานหินละเรือหินอ่อน สร้างขึ้นครั้งแรกเมื่อราว 800 ปีก่อน ประกอบภาพเขียนสีเป็นเรื่องราวเทพนิยายต่างๆ ของจีนที่ไม่ซ้ำกันเลยเป็นจำนวนถึง 8,000 กว่าภาพ เคยถูกรุกรานถึงสองครั้ง เมื่อตอนกองทัพพันธมิตรบุกยึดเมืองปักกิ่ง


มหาวิทยาลัยในเมืองเทียนจิน

University of International Business and Economics

Beijing Union University

Capital Normal University

Capital University of Economics and Business

Beijing University of Chemical Technology

Beijing Broadcasting Institute

Beijing Language and Culture University